KYC คืออะไร
KYC (หรือ Know Your Customer) หมายถึงกลุ่มมาตรการและกระบวนการที่นำมาปฏิบัติโดยสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการชำระเงิน รวมถึงองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจในตัวตนและข้อมูลภูมิหลังของลูกค้าของตัวเอง KYC คือการสอบทานธุรกิจซึ่งต้องให้สถาบันต่างๆ ดำเนินการสืบสวน รวมถึงการตรวจสอบลูกค้าของตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ารายต่างๆ นั้นมีความถูกต้องตามกฏหมาย มีความน่าเชื่อถือและปฏิบัติตามกฏหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ทำไม KYC ถึงจำเป็น
KYC เป็นข้อกำหนดในการปฏิบัติตามกฏหมายสำหรับสถาบันการเงินและองค์กรที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากข้อบังคับและบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CTF) ของออสเตรเลีย สถาบันการเงินและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ จำเป็นต้องดำเนินนโยบาย KYC กับลูกค้าของตัวเองและดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อระบุตัวตน รวมถึงป้องกันการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและกิจกรรมที่ผิดกฏหมายอื่นๆ
KYC จะช่วยให้สามารถปกป้องลูกค้าจากการฉ้อโกงและการดำเนินการในทางมิชอบได้ การร้องขอให้ลูกค้ายื่นเอกสารยืนยันตัวตนที่ถูกต้องตามกฏหมาย รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นนั้น สถาบันการเงินจะสามารถแน่ใจได้ว่าผลประโยชน์ของตนเองนั้นได้รับการปกป้องและคุ้มครองจากการตกเป็นเหยื่อของกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงได้ ยิ่งไปกว่านั้น KYC ยังช่วยให้สามารถสร้างความเข้าใจในตัวตนและความเสี่ยงของลูกค้า ช่วยสร้างมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามข้อบังคับ
จะทำให้กระบวนการ KYC เสร็จสิ้นได้อย่างไร
ขั้นตอนที่ 1:กรอกข้อมูลส่วนบุคคล ให้เรียบร้อย (ต้องทำการเปลี่ยนรูปภาพ เนื่องจากมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎอยู่)
โปรดให้ข้อมูลพื้นฐานของผู้สมัครสำหรับบัญชีของคุณ ซึ่งต้องเป็นผู้มีอำนาจลงนามในบัญชีของคุณ
สืบเนื่องจากความจำเป็นในด้านการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โปรดเลือกสกุลเงินที่คุณมีความประสงค์จะทำการแลกเปลี่ยน และให้ข้อมูลจำนวนธุรกรรมรายปีโดยประมาณ (โปรดใช้สกุลเงินที่คุณถืออยู่เป็นสกุลเงินในการอ้างอิง)
ตัวอย่าง เช่น หากข้อกำหนดด้านการแลกเปลี่ยนเงินของคุณคือจากดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ไปเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) จำนวนธุรกรรมโดยประมาณควรจะเป็นดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เมื่อกรอกข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว โปรดคลิกที่ปุ่ม "ถัดไป"
ขั้นตอนที่ 2:อัปโหลดเอกสารต่างๆ
โปรดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ และตรวจสอบรูปภาพว่ามีความชัดเจนและสามารถอ่านได้ง่าย
- เอกสารระบุตัวตนหลัก (ออกโดยรัฐบาล)
- เอกสารระบุตัวตนรอง (รวมถึงชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพักอาศัย)
โปรดทราบว่าขนาดไฟล์ไม่ควรเกิน 5 MB และต้องอยู่ในรูปแบบไฟล์ JPG, PNG หรือ PDF
ตัวอย่างเอกสารระบุตัวตนหลัก:
- ใบอนุญาตขับขี่ของออสเตรเลียหรือต่างประเทศ หรือใบสอบอนุญาตขับขี่สำหรับผู้เรียน (รวมถึงใบอนุญาตขับขี่แบบดิจิทัล)
- หนังสือเดินทางออสเตรเลีย
- บัตรประจำตัวที่แสดงอายุที่ออกโดยรัฐบาลออสเตรเลีย
- หนังสือเดินทางต่างประเทศที่ออกโดยรัฐบาลต่างชาติหรือโดยองค์การสหประชาชาติ
- เอกสารการเดินทางนานาชาติที่ออกโดยรัฐบาลต่างชาติหรือโดยองค์การสหประชาชาติ
- บัตรประจำตัวประชาชนที่ออกโดยรัฐบาลต่างชาติหรือโดยองค์การสหประชาชาติ
- สูติบัตรต่างประเทศหรือเอกสารรับรองสัญชาติ
- บัตรต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาลออสเตรเลีย เช่น บัตรโดยสารสำหรับผู้สูงอายุ บัตรประกันสุขภาพ หรือบัตประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ
หมายเหตุ: หากเอกสารเดินทางหรือเอกสารระบุตัวตนเป็นภาษาต่างประเทศและผู้ที่ทำการตรวจสอบเอกสารไม่สามารถทำความเข้าใจภาษาดังกล่าวได้ ลูกค้าต้องเตรียมคำแปลภาษาอังกฤษที่ผ่านการรับรองแล้ว
ตัวอย่างเอกสารระบุตัวตนรอง:
- หนังสือแจ้งจากสำนักงานภาษีออสเตรเลียหรือหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ เช่น เซนเตอร์ลิงก์ (Centrelink) ซึ่งระบุข้อมูลชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพำนักอาศัย ซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกภายในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา
- หนังสือแจ้งอัตราของสภาเทศบาลหรือใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภค (เช่น ค่าน้ำ ค่าก๊าซ หรือใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า) ซึ่งระบุข้อมูลชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพักอาศัย และต้องเป็นเอกสารที่ออกภายในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา
- สำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปีขึ้นปี จดหมายที่ออกโดยหัวหน้าฝ่ายบริหารของโรงเรียนที่ออกภายในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งระบุชื่อบุคคล ที่อยู่ในการพำนักอาศัย รวมถึงหลักฐานในการเข้าเรียนหรือบัตรประจำตัวนักเรียนของบุคคลดังกล่าว (หากมี)
หากจำเป็น ฝ่ายบริการลูกค้าของเราจะติดต่อคุณเพื่อเก็บรวบรวมเอกสารรูปภาพในการระบุตัวตนเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 3:การตรวจสอบใบสมัคร
โปรดตรวจสอบข้อมูลที่คุณเคยส่งมาในครั้งก่อนที่หน้านี้ เพื่อเป็นการรับรองความถูกต้อง หากเกิดความเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ "แก้ไข" เพื่ออัปเดตข้อมูลของคุณ
หากคุณได้ทำการยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง โปรดคลิกที่ "ถัดไป"
ขั้นตอนที่ 4:การส่งใบสมัคร
ก่อนทำการส่ง KYC ของคุณ โปรดอ่านเอกสารเหล่านี้โดยละเอียด:
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบัญชี
- ขั้นตอนการปฏิบัติตามข้อบังคับของบัญชี
- นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการสร้างบัญชีนั้น คุณได้ยอมรับนโยบายข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในเอกสารข้างต้น โปรดแน่ใจว่าคุณมีความเข้าใจและยอมรับเอกสารเหล่านี้ก่อนดำเนินการขั้นต่อไป
เพื่อตรวจสอบตัวตนของคุณ เราจะทำการตรวจสอบตัวตนและรับรองความถูกต้องแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในขั้นตอนสุดท้าย โปรดระบุชื่อจริงและชื่อผู้ถือบัญชีเพื่อทำการยืนยัน (โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อนั้นตรงกับชื่อที่ปรากฏบนเอกสารระบุตัวตนอย่างเป็นทางการ)
จากนั้นให้คลิกที่ "ส่ง" เพื่อดำเนินการต่อ
เมื่อทำการส่งเอกสาร KYC ของคุณแล้ว คุณจะได้รับข้อความแจ้งเตือนเพื่อยืนยันการส่งเอกสารดังกล่าว เมื่อการตรวจสอบ KYC ของคุณเสร็จเรียบร้อยและได้รับการอนุมัติแล้ว คุณจะได้รับข้อความแจ้งเตือน (อาจเป็นทางอีเมล)