KYB คืออะไร
KYB (Know Your Business) คือกลุ่มในการตรวจสอบและกระบวนการต่างๆ ที่สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการชำระเงิน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำมาใช้เพื่อระบุและตรวจสอบธุรกิจต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ในเชิงพาณิชย์ KYB คือการสอบทานธุรกิจซึ่งต้องให้สถาบันต่างๆ ดำเนินการสอบทานธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบลูกค้าของตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ารายต่างๆ นั้นมีความถูกต้องตามกฏหมาย มีความน่าเชื่อถือและได้ปฏิบัติตามกฏหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องและจำเป็น
ทำไม KYB ถึงจำเป็น
วัตถุประสงค์ของ KYB คือเพื่อในแน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามธุรกรรมทางธุรกิจและเพื่อเป็นการป้องกันกิจกรรมผิดกฏหมาย เช่น การฟอกเงิน การติดสินบน รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ในการใช้ KYB นั้น สถาบันการเงิน ธุรกิจและผู้ให้บริการจะสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจอื่นๆ และสามารถยืนยันว่าฝ่ายดังกล่าวนั้นมีความถูกต้องทางกฏหมาย มีความเชื่อถือได้ รวมถึงมีการปฏิบัติตามกฏหมาย ข้อบังคับและนโยบายที่เกี่ยวข้อง
KYB จะช่วยให้สามารถปกป้องลูกค้าจากการฉ้อโกงและการดำเนินการในทางมิชอบได้ การร้องขอให้ลูกค้ายื่นเอกสารยืนยันตัวตนที่ถูกต้องตามกฏหมาย รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นนั้น สถาบันการเงินจะสามารถแน่ใจได้ว่าผลประโยชน์ของตนเองนั้นได้รับการปกป้องและคุ้มครองจากการตกเป็นเหยื่อหรือจากการฉ้อโกงได้ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ KYB จะช่วยให้เกิดความเข้าใจในตัวตนและความเสี่ยงของลูกค้า ซึ่งเป็นการใช้การตรวจสอบที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและเป็นการตอบสนองข้อกำหนดและข้อบังคับต่างๆ ด้วย
จะเสร็จสิ้นการดำเนินการ KYB ได้อย่างไร
ขั้นตอนที่ 1: กรอกข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วน
โปรดให้ข้อมูลทั้งหมดของบริษัทในบัญชีของคุณ คุณจำเป็นต้องทำการอัปโหลดเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งรวมถึง:
- เอกสาร 1 ฉบับที่ระบุว่าประธานกรรมการบริหาร/กรรมการ/ผู้รับผลประโยชน์คือใคร
- เอกสาร 1 ฉบับที่แสดงหลักฐานที่ตั้งของบริษัท
ตัวอย่างเอกสารอื่นๆ ที่เป็นทางเลือกมีดังนี้:
- ชื่อเต็มของบริษัทที่จดทะเบียนโดย ASIC
- เลขที่ ABN/ACN/ARBN หรือรหัสที่มีสถานะเท่าเทียมกัน
- ประเทศที่ทำการจดทะเบียน
- รายชื่อกรรมการและผู้รับผลประโยชน์แต่ละราย
- ที่อยู่ที่ครบถ้วนของบริษัท
- ที่อยู่ที่ครบถ้วนที่บริษัทใช้ดำเนินกิจการ
สืบเนื่องจากความจำเป็นในด้านการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โปรดเลือกสกุลเงินที่คุณมีความประสงค์จะทำการแลกเปลี่ยน และให้ข้อมูลจำนวนธุรกรรมรายปีโดยประมาณ (โปรดใช้สกุลเงินที่คุณถืออยู่เป็นสกุลเงินในการอ้างอิง)
ตัวอย่าง เช่น หากข้อกำหนดด้านการแลกเปลี่ยนเงินของคุณคือจากดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ไปเป็นดอลลาร์สหรัฐ (USD) จำนวนธุรกรรมโดยประมาณควรจะเป็นดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เมื่อกรอกข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว โปรดคลิกที่ปุ่ม "ถัดไป"
ขั้นตอนที่ 2: ข้อมูลของผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย
โปรดเลือกผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้ายจำนวนหนึ่งหรือสองราย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะแท้จริงของบริษัท และกรอกข้อมูล รายละเอียดผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย:
จากนั้นให้เตรียมทำการอัปโหลดเอกสารระบุตัวตน โปรดเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ และตรวจสอบรูปภาพว่ามีความชัดเจนและสามารถอ่านได้ง่าย
- เอกสารระบุตัวตนหลัก (ออกโดยรัฐบาล)
- เอกสารระบุตัวตนรอง (รวมถึงชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพักอาศัย)
โปรดทราบว่าขนาดไฟล์ไม่ควรเกิน 5 MB และต้องอยู่ในรูปแบบไฟล์ JPG, PNG หรือ PDF
ตัวอย่างเอกสารระบุตัวตนหลัก:
- ใบอนุญาตขับขี่หรือใบอนุญาตที่ออกโดยทางการออสเตรเลียหรือต่างชาติ (รวมถึงใบอนุญาตขับขี่แบบดิจิทัล)
- หนังสือเดินทางของออสเตรเลีย
- บัตรประจำตัวที่มีหลักฐานยืนยันด้านอายุที่ออกโดยทางการออสเตรเลีย
- หนังสือเดินทางต่างประเทศที่ออกโดยรัฐบาลต่างชาติหรือโดยองค์การสหประชาชาติ
- เอกสารการเดินทางนานาชาติที่ออกโดยรัฐบาลต่างชาติหรือโดยองค์การสหประชาชาติ
ตัวอย่างเอกสารระบุตัวตนรอง:
- หนังสือแจ้งจากสำนักงานภาษีออสเตรเลียหรือหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ เช่น เซนเตอร์ลิงก์ (Centrelink) ซึ่งระบุข้อมูลชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพำนักอาศัย ซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกภายในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา
- หนังสือแจ้งอัตราของสภาเทศบาลหรือใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภค (เช่น ค่าน้ำ ค่าก๊าซ หรือใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า) ซึ่งระบุข้อมูลชื่อบุคคลและที่อยู่ในการพำนักอาศัย ซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกภายในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา
- สำหรับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำเป็นต้องมีจดหมายจากหัวหน้าฝ่ายบริหารของโรงเรียน ซึ่งต้องเป็นเอกสารที่ออกภายในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา
หากจำเป็น ฝ่ายบริการลูกค้าของเราจะติดต่อคุณเพื่อเก็บรวบรวมเอกสารรูปภาพในการระบุตัวตนเพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 3: ข้อมูลของบุคคลที่ได้รับอนุญาต
โปรดกรอกข้อมูลของ บุคคลที่ได้รับอนุญาต หากเป็นชื่อเดียวกันกับผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย คุณสามารถคลิกที่แถบผู้รับผลประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกัน
ในอีกทางหนึ่ง โปรดปฏิบัติตามข้อแนะนำในหน้านี้เพื่อกรอกข้อมูลและทำการอัปโหลดเอกสารสนับสนุนของบุคคลผู้ได้รับอนุญาต โดยข้อกำหนดต่างๆ นั้นเป็นแบบเดียวกันกับผู้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมในทอดสุดท้าย จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม "ถัดไป"
ขั้นตอนที่ 4: การตรวจสอบใบสมัคร
โปรดตรวจสอบข้อมูลที่คุณเคยส่งมาในครั้งก่อนที่หน้านี้ เพื่อเป็นการรับรองความถูกต้อง หากเกิดความเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ "แก้ไข" เพื่ออัปเดตข้อมูลของคุณ
หากคุณได้ทำการยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง โปรดคลิกที่ "ถัดไป"
ขั้นตอนที่ 5: การส่งใบสมัคร
ก่อนทำการส่ง KYB ของคุณ โปรดอ่านเอกสารเหล่านี้โดยละเอียด:
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบัญชี
- ขั้นตอนการปฏิบัติตามข้อบังคับของบัญชี
- นโยบายความเป็นส่วนตัว
ในการสร้างบัญชีนั้น คุณได้ยอมรับนโยบายข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในเอกสารข้างต้น โปรดแน่ใจว่าคุณมีความเข้าใจและยอมรับเอกสารเหล่านี้ก่อนดำเนินการขั้นต่อไป
เพื่อตรวจสอบตัวตนของคุณ เราจะทำการตรวจสอบตัวตนและรับรองความถูกต้องแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในขั้นตอนสุดท้าย โปรดระบุชื่อจริงและชื่อผู้ถือบัญชีเพื่อทำการยืนยัน (โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อนั้นตรงกับชื่อที่ปรากฏบนเอกสารระบุตัวตนอย่างเป็นทางการ)
จากนั้นให้คลิกที่ "ส่ง" เพื่อดำเนินการต่อ
เมื่อทำการส่งเอกสาร KYB ของคุณแล้ว คุณจะได้รับข้อความแจ้งเตือนเพื่อยืนยันการส่งเอกสารดังกล่าว เมื่อการตรวจสอบ KYB ของคุณเสร็จเรียบร้อยและได้รับการอนุมัติแล้ว คุณจะได้รับข้อความแจ้งเตือน (อาจเป็นทางอีเมล)